เป็นบัญชีที่ฝากขั้นต่ำน้อยที่สุด คือ 1 $ แต่ก็แลกมาด้วยค่าบริการรวมแพงกว่ากลุ่มบัญชี Pro กลุ่มบัญชีนี้เทรดค่อนข้างหน่วงกว่ากลุ่มบัญชีสำหรับมืออาชีพ เช่น เวลาตั้ง TP SL โดยการดึงเส้นกราฟจะรู้สึกหน่วงประมาณ 1-2 วินาที โดยเฉพาะช่วงกราฟวิ่ง
โบรกเกอร์ Exness มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร และมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน ทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายว่าควรเลือกโบรกไหนที่จะลงทุนและไม่โดนเอาเปรียบ เทรดอย่างปลอดภัย ติดปัญหาก็สามารถแก้ไขได้ทันที
Exness มีฐานลูกค้าเป็นอย่างไร เรื่องของการได้รับใบอนุญาตดำเนินการนั้นได้รับมาจากที่ไหน ค่าใช้จ่ายในการเทรดมากหรือน้อยอย่างไร ประเภทบัญชีเทรดมีกี่แบบ เงื่อนไขการเทรดเป็นอย่างไรบ้าง และการให้บริการลูกค้ามีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจในการเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่จะเทรดด้วย เลือกโบรกที่ดีทำให้เราง่ายขึ้น ในทุกๆเรื่อง
Exness เป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ Forex ที่คนไทยรู้จักกันดีมาก เพราะดำเนินการมานาน มีฐานลูกค้าเยอะ และมีกิจกรรมร่วมกับพาร์ทเนอร์เพื่อบุกเบิกและรุกตลาดในประเทศไทยมาตลอดอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนั้น หน้าเว็บ Exness มีหลายภาษาให้เลือกใช้ มีฝ่ายบริการลูกค้าไม่น้อยกว่า 13 ภาษาทั่วโลกรวมทั้งภาษาไทยด้วย และสามารถทำการฝากถอนผ่านธนาคารไทยได้ทันทีทุกวันไม่มีวันหยุด
โบรกเกอร์ Exness เป็นโบรกเกอร์ที่ก่อตั้งในปี 2008 โดยใช้ชื่อแยกตามประเทศที่บริษัทจดทะเบียนและได้รับใบอนุญาตคือ
ดังนั้นการให้บริการการเทรดก็จะขึ้นอยู่กับว่าท่านลงทะเบียนกับบริษัทไหนในเครือของโบรกเกอร์Forex Exness
โบรกเกอร์ Exness คือมีความหลากหลายของสินค้าให้ท่านได้เลือกเทรด ทั้ง Forex และ CFDs (ตอนนี้เห็นว่ามี Social trading เพิ่มขึ้นมาด้วยสำหรับนักเทรดที่ต้องการใช้บริการ copytrading) ให้บริการการเทรดผ่านแพลตฟอร์มที่นิยมเทรดกันคือ Metatrader 4/5 รวมทั้งแพลตฟอร์มอื่นๆ แล้วแต่ลูกค้าจะเลือกใช้ มีหลายประเภทบัญชีให้เลือก
สำหรับแพลตฟอร์ม Metatrder 4 มีบัญชีประเภท Cent, Mini, ECN และ Classic สำหรับแพลตฟอร์ม Metatrader 5 มีบัญชี Mini และ Classic ให้เทรดเดอร์ได้เลือกใช้ นั่นทำให้โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ Exness มีความน่าเชือถือ อีกทั้งสิ่งแวดล้อมในการเทรดก็เป็นแบบมืออาชีพ รวมไปถึงการให้บริการแบบมืออาชีพอีกด้วย
รายละเอียดบัญชี
เรื่องความน่าชือถือของโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ Exness นั้นสามารถดูได้จากหลายอย่าง ทั้งภาพลักษณ์ การขยายการลงทุน เรื่องของเนื้อหาที่นำเสนอซึ่งมีถึง 18 ภาษา มี Support ตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง 5 วันทำการที่มากถึง 13 ภาษา มีการแยกเงินทุนของลูกค้า ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2008 ได้รับใบอนุญาตดำเนินการทั้งของ FCA ของประเทศอังกฤษ และ CySEC ของประเทศไซปรัส และมีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
การคิดค่าบริการต่างกันออกไปตามประเภทบัญชีเทรด ต้นทุนหลักๆ ที่เกิดจากการเทรดที่โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ใช้คือ เรื่องของสเปรด เรื่องของค่าคอมมิชั่น และค่า swap การถือออเดอร์ที่เปิดอยู่ข้ามวัน โดยทางโบรกเกอร์ Exness ได้เสนอตามแต่ละประเภทบัญชีดังนี้
จะเห็นว่าต้นทุนการเทรดของโบรกเกอร์ Exness จะไปรวมที่สเปรดเกือบทุกประเภทบัญชี ยกเว้นบัญชีแบบ ECN ที่มีการคิดค่าคอมมิชชั่นออกมาต่างหาก ต้นทุนค่าสเปรดก็เป็นแบบลอยตัวตามราคาตลาด เริ่มที่ 0.0 pip สำหรับบัญชี ECN และ 0.01 pip ที่บัญชี Classic และเริ่มที่ 0.3 pip สำหรับบัญชี Mini ถ้าเป็นการเทรดช่วงที่ตลาดเกี่ยวกับค่าเงินนั้นๆ เปิดด้วยก็จะได้สเปรดที่ถือว่าต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ ไม่นับรวมถึงต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการถือออเดอร์ข้ามวันที่ทุกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์คิดเหมือนกัน อาจแตกต่างกันเล็กน้อยถ้าไม่ใช่บัญชีแบบ SWAP Free
Exness ถือว่าเป็นโบรกเกอร์ที่ได้ทำตลาดมานาน ยิ่งในประเทศไทยถือได้ว่าเป็นโบรกเกอร์กลุ่มแรกๆ ที่เข้ามาทำตลาด มีการขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นโบรกระดับ Top ในประเทศไทยก็ว่าได้ การฝากถอนง่ายสามารถฝากถอนผ่านธนาคารออนไลน์ได้เลยทันที และทำได้ตลอดแม้วันหยุดทำการ (ช้าสุดในการถอนไม่เกิน 24 ชั่วโมง)
มีประเภทบัญชีสำหรับเทรดเดอร์เริ่มต้นหรือหัดเทรดอย่างบัญชีประเภท Cent โดยยอมให้เทรดต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ แพลตฟอร์มสำหรับเทรดเป็น Metatrader ที่เทรดเดอร์ต่างก็คุ้นเคย แต่ข้อเสียที่เห็นได้ชัดคือเรื่องของการลด Leverage ที่ช่วงมีข่าว เพราะอาจกระทบกับเทรดเดอร์ประเภทที่เทรดด้วยการใช้ Leverage ช่วยเป็นหลักได้ (เนื่องจากทุนน้อยแต่ต้องการผลตอบแทนมาก)
นอกจากนั้นบัญชี ECN มีข้อเสียเรื่อง leverage ได้ไม่เกิน 1:200 และ margin สำหรับการเปิด hedge คานออเดอร์ที่ถืออยู่ ส่วนบัญชี Classic ก็มีข้อเสียคือทุนขั้นต่ำมากไป เริ่มที่ 2,000 ดอลลาร์ นอกจากนั้นก็เป็นเรื่องของชาร์ตซึ่งชาร์ตของโบรกเกอร์ Exness ที่เสนอผ่าน Metatrader ไม่ใช่ New York Close ซึ่งจะมีผลกระทบกับเทรดเดอร์ที่เทรดแนว Price Action ได้
ภาพรวมด้านต่างๆของ Exness อยู่ในระดับดีถึงดีเยี่ยม เช่น
ปัจจุบัน Exness มีบริการ 2 ประเภทบัญชีหลัก และ 5 บัญชีย่อย ได้แก่
เป็นบัญชีที่ฝากขั้นต่ำน้อยที่สุด คือ 1 $ แต่ก็แลกมาด้วยค่าบริการรวมแพงกว่ากลุ่มบัญชี Pro กลุ่มบัญชีนี้เทรดค่อนข้างหน่วงกว่ากลุ่มบัญชีสำหรับมืออาชีพ เช่น เวลาตั้ง TP SL โดยการดึงเส้นกราฟจะรู้สึกหน่วงประมาณ 1-2 วินาที โดยเฉพาะช่วงกราฟวิ่ง
เป็นบัญชียอดนิยมของ Exness ซึ่งเหมาะสำหรับการเทรดทุกรูปแบบ เงินฝากขั้นต่ำ 1 USD ค่าบริการรวมแพงกว่ากลุ่มบัญชี Pro Leverage สูงสุด ไม่จำกัด (เฉพาะ Standard บน MT4 ส่วน MT5 สูงสุด 1:2000 ดังนั้นบัญชีนี้ MT5 จึงด้อยกว่า ส่วนประเด็นอื่นๆ เท่าๆกัน)
เหมาะสำหรับมือใหม่ ซึ่งเรียนรู้การเทรดด้วยไมโครล็อต ออก order ได้ด้วย Lot.น้อยๆ จึงทำ MM ได้ง่าย เหมาะกับการทดลองเทรด หรือทดสอบระบบเทรด, เงินฝากขั้นต่ำ 1 USD, ค่าบริการรวมแพงกว่ากลุ่มบัญชี Pro, Leverage สูงสุด ไม่จำกัด, เครื่องมือการซื้อขายมีเฉพาะ คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ โลหะ (ซึ่งพอเพียงแล้ว)
บัญชีนี้ใช้ระบบเงินเทรดเป็น USC (เซ็นต์สหรัฐ) ทำให้ออก order ได้น้อย ซึ่งแน่นอนก็จะเทรดได้เงินน้อยและเสียเงินน้อยด้วย จึงเหมาะเทรดแทนบัญชี Demo เพราะให้อารมณ์ที่สมจริงกว่าเงินปลอม
ข้อดี exness | ข้อเสีย exness |
• มีความมั่นคงสูง และคนไทยนิยมมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศ | • ยอดฝากขั้นต่ำของกลุ่มบัญชีสำหรับมืออาชีพใน MT4 มากไป (คือฝากขั้นต่ำ 1000 ดอลลาร์) |
• มีการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง (เป็นเว็บที่ฟัง และปรับปรุงตาม Comments ของลูกค้า) | • ไม่สามารถฝากผ่าน VISA และ Mastercard ได้ |
• ฝาก-ถอนง่าย สามารถฝากถอนผ่านธนาคารไทยได้ ฝาก : เงินเข้าทันที , ถอน : รับเงินทันที (มีช้าบ้างแต่ไม่เกิน 4 ชม.) มีหลายธนาคารไทยให้เลือก (แบบพอเพียง) | • ไม่มีโบนัส (Exness อ้างว่าเอาไปเน้นเรื่อง ลดค่า commission และ spread และเพิ่มการ support ในด้านอื่นๆ ซึ่งส่วนตัวผมชอบไอเดียนี้) |
• รองรับการฝากถอนผ่าน NETELLER, Perfect Money, WebMoney, และ Skrill | • ระบบไม่ค่อยเสถียรในบางครั้ง โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาผันผวนแรงๆ ช่วงข่าวสำคัญๆ ช่วงคนมีออเดอร์มากๆ โดยเฉพาะกลุ่มบัญชีมาตรฐาน และบัญชี Zero (อันนี้ผมมองเป็นจุดอ่อนของเขาที่สุด) |
• ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากเงิน-ถอนเงิน และ เรทฝาก-ถอน เป็น 0: ฝาก 100 USD ถอนออกก็ยังได้ 100 USD เท่าๆเดิม (จะได้เพิ่มหรือลดลง ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่เปลี่ยนแปลงไป) | • เว็บเข้าไม่ได้ ในบางครั้ง |
• ค่าบริการรวม (Spread + Commission) ต่ำมาก โดยเฉพาะบัญชี Raw Spread | • การเปิดบัญชีเดโมเพื่อทดลองเทรด ต้องมีบัญชีจริงก่อน (ขี้เหนี๋ยวไปหน่อย) |
• Exness ฝากขั้นต่ำน้อยมาก ตั้งแต่ 1 ดอลลาร์: แต่…เขาตั้งมาให้ดูดีครับ เทรดจริงๆ ควรฝากมากกว่า 30 USD ( 1 $ มันจิ๋วหริ๋วเดียว ตามความเป็นจริงคงมีน้อยคนมากที่จะฝากแค่นั้น) และควรเริ่มที่บัญชี stand cent ก่อนครับ เพื่อฝึกเทรดเงินจริง | • หลังจากไม่ได้ทำการเทรด 90 วัน และมียอดเงินต่ำกว่า 5 USD บัญชี Exness จะถูกระงับการใช้งาน (แต่สามารถกู้คืนได้) แต่บัญชีทดลองเมื่อไม่เทรดเป็นเวลา 180 วันและมีเงินคงเหลือน้อยกว่า 50 USD จะถูกลบออกจากระบบ |
• เลเวอเรจ 1:2000 (บัญชี MT5) และ Unilimited leverage (เลเวอเรจ ไม่จำกัด ในบัญชี MT4): สามารถใช้ประโยชน์จากจุดนี้ด้วยการลงทุนน้อยๆ แต่ได้ผลกำไรมากได้ แต่นั่นแปลว่าการล้างพอร์ตก็จะง่ายตามมาด้วย | |
• Platform การเทรดหลักๆครบ มี MT4/MT5 ให้เทรดบน PC , Mobile MT4/MT5, และ Website (MT4 WebTerminal) | |
• มีการชี้แจงปริมาณการซื้อขายทั้งหมดของโบรก (เพราะหลายโบรกไม่ให้ข้อมูลนี้) | |
• เปิดบัญชีภายใน (เปิดบัญชีเทรดเพิ่ม) ได้ง่าย | |
• รองรับ EA ทุกรูปแบบ | |
• Exness มี FREE VPS ที่ไว้คอยบริการเทรดเดอร์สำหรับในการรัน EA อีกด้วย | |
• มีระบบ Social Trading ลงทุนโดยใช้กลยุทธ์ของคนอื่น หรือ แชร์กลยุทธ์ตัวเองเพื่อสร้างรายได้ | |
• บริการ Live Support ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวัน และเจ้าหน้าที่ บริการตอบคำถามได้ดีมาก แก้ปัญหาให้เราได้จริงๆ | |
• สามารถเทรดค่าเงิน USDTHB ได้ (สำหรับนักลงทุนที่เชี่ยวชาญค่าเงินบาท) |
Raw Spread MT5: เนื่องจาก มีข้อโดดเด่นจากบัญชีอื่นๆคือ
สมัยก่อนการเปิดบัญชีง่ายมาก แต่ปัจจุบันซับซ้อนขึ้น (พบว่าเริ่มเป็นกันทุกโบรกเกอร์ เนื่องจากระบบ license ที่บังคับตามกฎเกณฑ์มากขึ้น)
เลือกโหลดตาม Platform ได้ที่นี่ หรือ โหลด MT4 for PC คลิ๊กที่นี่เข้าไปที่หน้าแรกแล้วโหลด Platform ได้ที่เมนู เครื่องมือ
ผมจะทดลองฝากแล้วถอนเงินเลย จำนวน 100 $ ให้ดูกันครับ จะได้ดูเรทฝาก-ถอนด้วยว่าเงินเราแทบไม่ได้หายไปกับการฝากถอนเลย
เข้าไปที่หน้า บัญชีของฉัน / กดปุ่ม ฝากเงินผมจะทดลองฝากผ่าน ธ.กรุงไทย ดังนั้นให้กดปุ่มนี้ครับ “การชำระเงินผ่านธนาคารออนไลน์ในประเทศไทย”
ใส่ข้อมูลจำนวนเงินที่จะฝาก (เวลาฝาก ฝากเป็นบาท เวลาถอนจะถอนเป็น USD)
ตรวจสอบข้อมูลและยืนยัน
เลือก ธนาคารที่ฝาก
ฝากเงินเมื่อ ค่าเงินบาท = 30.0253 บาท / 1 USD (ผมทำข้อมูลเพื่อคิด เรทฝากถอน)ฝาก 3,008 บาท ได้ = 100.182 USD
เงินเข้าแบบทันที (เร็วมาก ไม่ผิดหวังเลย) ซึ่งทางโบรกเกอร์ Exness แจ้งว่าเงินจะเข้าไม่เกิน 4 ชั่วโมง (หากเกินให้ติดต่อ Support ได้ทันที) ทั้งนี้ความเร็วของเงินฝากที่จะเข้าบัญชีเทรดขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของการทำรายการในช่วงเวลานั้นๆ (ช่วงเวลาเช้าๆ ดีที่สุด ถ้าบ่ายคนเริ่มเทรดกันแล้ว เงินอาจเข้าช้าได้)
ไม่จำกัดจำนวนครั้งต่อหนึ่งวัน ขั้นต่ำ 1$ สูงสุด 9,600 USD
กดถอนเงินในบัญชีที่ต้องการถอนเลือก การชำระเงินผ่านธนาคารออนไลน์ในประเทศไทย
ระบุจำนวนที่ต้องการถอน (เวลาฝากเป็นบาท เวลาถอนเป็น USD)
ถอนเงินเมื่อ ค่าเงินบาท = 30.0085 บาท / 1 USD (ผมทำข้อมูลเพื่อคิด เรทฝากถอน)ดังนั้น ถอน 99.99 USD จะต้องได้ = 3,000.55 บาท
Exness ถอนเงินแล้ว ได้รับเงิน ทันที !!โดยปกติแล้วการทำรายการถอนเข้าธนาคารไทยยอดเงินจะเข้าทันที และไม่เกิน 24 ชั่วโมงหลังจากระบบยอมรับ (ถ้าเกินรีบแจ้ง Support ครับ) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นในการทำธุรกรรม
เงินเข้าบัญชี 3001.75 บาท (ตามคำนวณ 3,000.55 บาท ยอดที่เพิ่มขึ้น เพิ่มจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่ไม่คงตัว)* และเมื่อนำข้อมูลหน้าสรุปรายการบัญชีธนาคารมาคำนวณ เงินออก -3,008.00 บาท เงินเข้า +3,001.75 บาท ดังนั้นเงินหายไป 6.25 บาท หรือหายไปเพียง 6.26 บาท /30.0085 บาท/USD = 0.2 USDนั่นคือ ฝาก 100 USD ถอนได้มา 99.98 USDเข้าดังนั้นโบรกเกอร์ Exness จะเรียกได้ว่าไม่มีเรทฝากถอน (เงินที่หายไปมาจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราที่เปลี่ยนแปลงไป โดยตอนฝาก = 30.0253 บาท / 1 USD, ตอนถอน = 30.0085 บาท / 1 USDซึ่งบางโบรกเกอร์ มีเรทฝากถอนถึง 12 % นั่นแปลว่ายังไม่ได้เทรดเลย คุณก็เหมือนเสียเงินไปแล้วถึง 12% สมมุติคุณฝาก 10,000 บาท แปลว่าเงินคุณหายไปโดยไม่ได้เทรดแล้ว 1,200 บาท